ไฟไหม้!คลังสินค้าแช่เย็นย่านบางพลี สมุทรปราการ ล่าสุดยังคุมเพลิงไม่ได้

88 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รทึกไฟไหม้ห้องเย้นสมุทรปราการ

ที่มาข่าว : เรื่องเล่าเช้านี้
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 มีนาคม 2568 ศูนย์ดับเพลิง อบต.บางโฉลง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานคลังสินค้า บีซีเอส ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ เป็นตึก 4 ชั้นปิดทึบรอบด้าน ซึ่งภายในทำเป็นห้องเย็น มีการเก็บสินค้าแช่แข็งจำนวนมาก ไฟไหม้ลุกลามจากชั้นบนลงมาด้านล่างรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ระดมฉีดน้ำไม่ให้ลุกลามไปโรงงานอื่น ขณะที่การเข้าสกัดเพลิงของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูงและเป็นอาคารปิดมีเพียงทางขึ้นเพียงทางเดียว นักดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงในตัวอาคารต้องใช้อุปกรณ์ตัด ในการเข้าพังผนังด้านในโกดังเพื่อเข้าสกัดเพลิง ขณะที่ด้านนอกรอบโรงงาน จากการใช้โดรนจับความร้อนของทีมตอบโต้ภัยพิบัติ ขึ้นบินสำรวจพบว่ายังมีแสงเพลิงเต็มภายในคลังสินค้า โดยรถดับเพลิงแรงดันสูงบางส่วนพยามฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อล้อมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปมากว่านี้ ส่วนชุมชนและบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากที่อยู่ใต้ทิศทางลมเจ้าหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ให้สวมแมสก์ และเข้าเลี่ยงอยู่ที่โล่ง เนื่องจากควันจากไฟไหม้ดังกล่าวมีผลกระทบต่อทางเดินหายใจ จากการสอบถามเบื้องต้นโกดังดังกล่าวเปิดเป็นห้องเย็น สำหรับรับฝากของสดซึ่งภายในประกอบไปด้วยห้องเย็นขนาดใหญ่ เบื้องต้นด้านในเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดใช้ควบคุมโดยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ โดยขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานทำงานอยู่ภายใน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนรอบข้างคลังสินค้า ท้ายซอยเปรมฤทัย ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบว่ามีควันไฟได้ลอยปกคลุมพื้นที่โดยรอบ และเศษเขม่าของเพลิงตามพื้นถนน เริ่มมีผลกับชาวบ้านโดยรอบ โดยชาวบ้านต้องพากัน สวมแมส 2 ชั้น เพื่อป้องกันควันไฟ ขณะที่ นายขจิตเวช แก้วน้อย นายอำเภอบางพลี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ลงพื้นที่ควบคุมการปฎิบัติและสั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์และแจกจ่ายแมสให้กับประชาชนในชุมชนโดยรอบและอพยพผู้เปาะบางไปยังจุดพักพิงชั่วคราวที่ทาง อบต.บางโฉลง จัดเตรียมไว้ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนเลี่ยงการออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากกลุ่มควันลอยปกคลุมชุมชนและไปตามทิศทางลม ถือว่าภาพรวมยังโชคดีที่ลมไม่กดควันต่ำในระดับพื้น ประกอบกับให้รถดับเพลิงใช้การฉีดพ่นน้ำเพื่อสลายควันเพื่อลดการฟุ้งกระจาย ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าต้องสวมแมสถึงสองชั้นและอยากให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงให้ได้โดยเร็ว ต่อมาเวลา 21.30 น. ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว เจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังเข้าควบคุมเพิลงเบื้องต้นยังไม่สามารถดับไฟได้ แต่สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหลายหน่วยงานกว่า 30 คัน นำกำลังเข้าสกัดกั้นและดับไฟที่ลุกไหม้ภายในโกดังบริษัทดังกล่าว โดยภาพมุมสูงจากโดรนตรวจจับความร้อน ที่ทางสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติแห่งชาติ ขึ้นบินสำรวจความร้อนเหนือโกดังเพื่อนำภาพดังกล่าวมาวิเคราะห์และวางแผนการปฎิบัติ ซึ่งล่าสุดยังพบแสงเพลิงและความร้อนกระจายเต็มโกดัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องระดมใช้รถดับเพลิงแรงดันสูงคอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงรอบโกดังและพ่นละอองน้ำกระจายโดยรอบเพื่อลดควันไฟจากไฟไหม้ ด้านผู้บริหารของบริษัทลงพื้นที่ให้ข้อมูลแผนผังจากโกดัง ซึ่งระบุว่า โกดังดังกล่าวเป็นโกดังชั้นเดียวที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เป็นลักษณะห้องเย็นที่มีผนังกั้นสองชั้น ชั้นแรกจะเป็นด้านนอก ส่วนชั้นในจะเป็นผนังที่ห้องเย็นที่มีความหนาถึง 20 เซ็นติเมตร ส่วนภายในโกดังจะเป็นโครงเหล็กชั้นวางสินค้าแช่แข็งซึ่งมีสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปกว่า 90 % ของพื้นที่วางไว้อยู่ ด้านนักดับเพลิงระบุว่า อุปสรรคสำคัญของการดับเพลิงในครั้งนี้ คือเป็นพื้นที่โกดังปิดแบบห้องเย็น ส่วนด้านในไม่สามารถเข้าไปฉีดน้ำข้างในได้ เนื่องจากเป็นลักษณะชั้นวางของ และมีการพังถล่มลงมาของสินค้าและชั้นวางของ นักดับเพลิงทำได้แค่เพียงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงจากด้านนอกเท่านั้น และไม่สามารถหยุดฉีดน้ำได้ ขณะที่ล่าสุดมีการประสานรถดับเพลิงหอน้ำจากพื้นที่ กทม.ที่ใกล้เคียงเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุเพื่อใช้การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงจากด้านบนลงสู้อาคารจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถคุมเพลิงได้ในช่วงเวลาใด ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าการเกิดเพลิงไหม้ในโกดังดังกล่าทำให้แอมโมเนียที่ใช้ในการทำความเย็นรั่วไหล เป็นอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่ โดย คุณนก หนึ่งในผู้บริหารของบริษัทออกมาขอชี้แจงยืนยันว่า จุดอาคารที่เกิดเพลิงไหม้นั้นไม่มีการใช้ก๊าซแอมโมเนียแต่อย่างใด แต่เป็นก๊าซ CO2 เท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ส่วนควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้ของบริษัทนี้ หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถมาแจ้งต่อทางบริษัทหรือหน่วยงานราชการเพื่อให้ทางบริษัทเยียวยาชดเชยความเสียหายต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งทางบริษัทพร้อมรับผิดชอบ ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้แต่ทางบริษัทมีการทำประกันภัยไว้แล้ว ทั้งนี้ต้องขออภัยประชาชนและชุมชนโดยรอบที่เกิดเหตุดังกล่าวในครั้งนี้
สำนักงาน คปภ.oic thailand
 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้